เมนู

2. อารัมมณปัจจัย


[798] 1. อรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปวจรธรรม
ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ อากาสานัญจายตนะ เป็นปัจจัยแก่วิญญาณัญจายตนะ ด้วยอำนาจ
ของอารัมมณปัจจัย, อากิญจัญญายตนะ เป็นปัจจัยแก่เนวสัญญานาสัญญายตนะ
ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
2. อรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรมที่ไม่ใช่อรูปา-
วจรธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลพิจารณาอากาสานัญจายตนะ, วิญญาณัญจายตนะ ฯลฯ
อากิญจัญญายตนะ ฯลฯ พิจารณาเนวสัญญานาสัญญายตนะ ฯลฯ ขันธ์ทั้งหลาย
ที่เป็นอรูปาวจรธรรม โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต ที่เป็นอรูปาวจรธรรม
ด้วยเจโตปริยญาณ.
ขันธ์ทั้งหลายที่เป็นอรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่เจโตปริยญาณ, แก่
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ, แก่ยถากัมมูปคญาณ, แก่อนาคตังสญาณ, แก่
อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
3. ธรรมที่ไม่ใช่อรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่ธรรม
ที่ไม่ใช่อรูปาวจรธรรม ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย

คือ บุคคลให้ทาน ฯลฯ ศีล ฯลฯ กระทำอุโบสถกรรมแล้ว พิจารณา
ซึ่งกุศลกรรมนั้น ย่อมยินดี ย่อมเพลิดเพลินยิ่ง เพราะปรารภกุศลกรรมนั้น
ราคะ ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.

พิจารณากุศลกรรมที่เคยสั่งสมไว้แล้วในกาลก่อน ฯลฯ ออกจาก
ฌาน ฯลฯ
พระอริยะทั้งหลายออกจากมรรค, พิจารณามรรค, พิจารณาผล,
พิจารณานิพพาน.
นิพพาน เป็นปัจจัยแก่โคตรภู, แก่โวทาน, แก่มรรค, แก่ผล,
แก่อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.
พระอริยะทั้งหลายพิจารณากิเลสที่ละแล้ว, กิเลสที่ข่มแล้ว ฯลฯ กิเลส
ทั้งหลายที่เกิดขึ้นแล้วในกาลก่อน ฯลฯ
พิจารณาจักษุ ฯลฯ หทยวัตถุ ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อรูปาวจรธรรม
โดยความเป็นของไม่เที่ยง ฯลฯ โทมนัส ย่อมเกิดขึ้น.
บุคคลเห็นรูปด้วยทิพยจักษุ, ฟังเสียงด้วยทิพโสตธาตุ.
บุคคลรู้จิตของบุคคลผู้พร้อมเพรียงด้วยจิต ที่ไม่ใช่อรูปาวจรธรรม
ด้วยเจโตปริยญาณ.
รูปายตนะ เป็นปัจจัยแก่จักขุวิญญาณ ฯลฯ โผฏฐัพพายตนะ ฯลฯ
ขันธ์ทั้งหลายที่ไม่ใช่อรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่อิทธิวิธญาณ แก่
ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ, แก่ยถากัมมูปคญาณ, แก่อนาคตังสญาณ, แก่
อาวัชชนะ ด้วยอำนาจของอารัมมณปัจจัย.

3. อธิปติปัจจัย


[799] 1. อรูปาวจรธรรม เป็นปัจจัยแก่อรูปาวจรธรรม
ด้วยอำนาจของอธิปติปัจจัย